พ.ศ.2444

ก่อตั้งโรงเรียนโดยมิชชันนารีอเมริกันเพรสไบทีเรียน ที่เข้ามาสอนศาสนานำโดย ศาสนาจารย์เอคเคิลส์ และศาสนาจารย์เอฟ.แอล. สไนเดอร์ เปิดเป็นโรงเรียนเล็กๆสำหรับเด็กชายขึ้น แต่ก็ต้องปิดไปเนื่องจากไม่มีครูผู้สอนหลังจากนั้นประมาณหนึ่งปี วันที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ.2445 ได้ตั้งโรงเรียนขึ้นมาอีกให้ชื่อว่าโรงเรียนอเมริกัน-สกูล-ฟอร์บอยส์ (เอ เอ็ม ซี) ตั้งขึ้น ณ ตำบลคลัง อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราชในตอนแรกนั้นศาสนาจารย์อาร์ ดับบลิวโพสท์ เป็นอาจารย์ใหญ่

พ.ศ.2452

มิสลาราชา เจ คูเปอร์ เข้ารับงาน ท่านเป็นผู้บุกเบิกทางการศึกษานี้ คือ ตึกที่ระลึกมิสคูเปอร์ (ปัจจุบันเป็นคริสตจักรเบธเลเฮ็ม)

พ.ศ.2461-2466

ศาสนาจารย์เอคเคิ้ลส์ และศาสนาจารย์เอฟ.แอล.สไนเดอร์ ได้ผลัดเปลี่ยนกันจัดการดูแลโรงเรียนอเมริกัน-สกูล-ฟอร์บอยส์ หลังจากนั้นมิซซิส เฮเลน แมกเคกก์ ได้รับหน้าที่ต่อ

พ.ศ.2473

อาจารย์พลอด ณ นคร ได้เข้ามารับช่วงงานโรงเรียนต่อ รับหน้าที่เป็นครูใหญ่ นับว่าเป็นคนไทยคนแรกที่ได้รับตำแหน่งในโรงเรียน จนกระทั่งเสียชีวิตในปี พ.ศ.2492

พ.ศ.2484

โรงเรียนได้เปลี่ยนชื่อใหม่จาก “อเมริกัน-สคูล-ฟอร์บอย” เป็น“ศรีธรรมราชวิทยา” เพื่อให้ถูกต้องตามรัฐนิยมฉบับที่ 9 โรงเรียนศรีธรรมราชวิทยา ได้เปิดสอน ณ ตำบลคลัง ซึ่งเป็นที่ดินของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าดิศวรกุมาร กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ได้ประทานแก่คณะมิชชันนารี

พ.ศ.2497

ได้ย้ายนักเรียนระดับมัธยมศึกษาจากสถานที่เดิม ระดับประถมศึกษานั้นคงเรียนอยู่ที่เดิม จนกระทั่งอาคารเรียนสร้างแล้วเสร็จ จึงได้ย้ายไปเรียนรวมที่เดียวกัน

พ.ศ.2498

โรงเรียนศรีธรรมราชวิทยา ได้รับการรับรองวิทยฐานะจากกระทรวง ศึกษาธิการให้เทียบเท่าโรงเรียนรัฐบาล

พ.ศ.2510

มูลนิธิแห่งสภาคริสตจักรในประเทศไทย ซึ่งเป็นผู้รับมอบกิจการโรงเรียนทั้งสองต่อจากคณะมิชชันนารีได้พิจารณารวมโรงเรียนศึกษากุมารีกับโรงเรียนศรีธรรมราชวิทยาเป็น โรงเรียน"ศรีธรรมราชศึกษา"จนกระทั่งปัจจุบัน

พ.ศ.2544

โรงเรียนศรีธรรมราชศึกษา ได้จัดการศึกษาหลักสูตรการใช้ภาษาอังกฤษเป็นสื่อการสอนตามหลักสูตรกระทรวงศึกษาธิการ (English Programme : E.P.)โดยเริ่มจัดการเรียนการสอนในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 1 ห้องเรียน ใช้สถานที่แผนกอนุบาลโรงเรียนศรีธรรมราชศึกษา

พ.ศ.2546

โรงเรียนศรีธรรมราชศึกษา ได้ขยายการจัดการศึกษาเพิ่มเติมในระดับบริบาล หลักสูตรปกตินักเรียนระดับอายุ 2-3 ปี จำนวน 2 ห้องเรียน

พ.ศ.2549

โรงเรียนได้จัดโครงการสอนเสริมภาษาจีน ยิมนาสติค ดนตรีและนาฎศิลป์จีน โดยอาจารย์เจ้าของภาษาจากโรงเรียนเจียจี๋ มิคเคลสกูล ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นครูผู้สอน จนกระทั่งปัจจุบันโรงเรียนยังคงมีหลักสูตรรายวิชาภาษาจีนสอนตั้งแต่ระดับอนุบาล ถึงระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย

พ.ศ.2550

ได้พัฒนาการจัดการศึกษา เปิดหลักสูตร “โครงการส่งเสริมความเป็นเลิศทางด้านวิทยาศาสตร์และด้านคณิตศาสตร์” ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น เปิดระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 2 ห้องเรียนมีนักเรียนจำนวนห้องเรียนละ 40 คน ผู้ปกครองสุรพงศ์  มิตรกูล ดำรงตำแหน่งผู้จัดการ-ผู้อำนวยการและอาจารย์ปริญญา ตาวินโน  ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิชาการ

พ.ศ.2546

โรงเรียนได้จัดการศึกษาส่งเสริมทางด้านการเรียนการสอนอีกหลักสูตรหนึ่งคือ หลักสูตร English Immersion Programme (E.I.P) ระดับชั้น ประถมศึกษาตอนปลาย โดยเริ่มเปิดชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 2 ห้องเรียน จำนวนนักเรียนห้องเรียนละ 35 คน ผู้ปกครองสุรพงศ์ มิตรกูล ดำรงตำแหน่งผู้จัดการ-ผู้อำนวยการ และอาจารย์นันทิยา ขัมพานนท์
ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิชาการ

พ.ศ.2554

โรงเรียนได้แยกแผนก English Programme มาตั้งอยู่ที่ ถนนอ้อมค่ายวชิราวุธ ตำบลปากพูน อำเภอเมืองจังหวัดนครศรีธรรมราชซึ่งเดิมเคยเป็นที่ตั้งของโรงเรียนพาณิชยการคณะพล

พ.ศ.2555

โรงเรียนศรีธรรมราชศึกษาได้ขยายการจัดการศึกษาในหลักสูตรใช้ ภาษาอังกฤษเป็นสื่อการสอนในระดับชั้นบริบาล โดยมีครูผู้สอนชาวต่างประเทศเป็นครู ประจำชั้น คู่กับครูชาวไทย และใช้ภาษาอังกฤษในการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์ในอัตราส่วนร้อยละ 70

พ.ศ.2559

โรงเรียนได้จัดการเรียนการสอนโครงการส่งเสริมความเป็นเลิศทางด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์  ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 1ห้องเรียนและระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 1ห้องเรียน ผู้ปกครองแพทย์หญิงจงดี มิตรกูล ดำรงตำแหน่งผู้จัดการ และ ผู้ปกครองแสงจันทร์  มิตรกูล ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการ

พ.ศ.2560

โรงเรียนได้จัดการเรียนการสอนโครงการส่งเสริมความเป็นเลิศทางด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ในระดับ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 1ห้องเรียน และระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 1 ห้องเรียน นางสาวจงดี มิตรกูล ดำรงตำแหน่งผู้จัดการ และ นางแสงจันทร์ มิตรกูล ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการ

พ.ศ.2561

โรงเรียนได้พัฒนาหลักสูตร โครงการ English Programme โดยจัดการเรียนการสอนหลักสูตร  Math -English and Graphic Design Program ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 1 ห้องเรียน

พ.ศ.2562

โรงเรียนได้จัดการเรียนการสอนห้องเรียนพิเศษภาษาจีนเข้มข้นในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 1 ห้องเรียน และการเรียนการสอนห้องเรียน Digital-Kid Learning Based (DLB Class) ในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โครงการ English Programme นายสุรพงศ์ มิตรกูล ดำรงตำแหน่งผู้จัดการ และ นางแสงจันทร์ มิตรกูล ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการ

พ.ศ.2563

โรงเรียนได้พัฒนาหลักสูตร โครงการ English Programme โดยจัดการศึกษาโดยเปิดห้องเรียนวิศวกรรมพื้นฐาน ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น Engineering Based Learning: EBL โดยมีนายสุรพงศ์ มิตรกูล ดำรงตำแหน่งผู้จัดการ และ ดร.แสงจันทร์ มิตรกูล ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการ

พ.ศ.2564

โรงเรียนได้เปิดโครงการส่งเสริมความเป็นเลิศทางคณิตศาสตร์ (Intensive Mathematics Program: IMP) ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 1 ห้องเรียน ปรับปรุงหลักสูตรโครงการส่งเสริมความเป็นเลิศทางด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ (Science Mathematics Program: SMP) ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ออกเป็น ทางด้านการแพทย์ (Medical Science: SMPMS) และ ทางด้านวิศวกรรมศาสตร์ (Engineering Science :SMPES) และห้องเรียนจินตคณิต ระดับประถมศึกษาตอนต้น (Mental Arithmetic Based Learning: MABL) ในโครงการ English Programme โดยมีนายสุรพงศ์ มิตรกูล ดำรงตำแหน่งผู้จัดการ และ ดร.แสงจันทร์ มิตรกูล ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการ

ปัจจุบัน

ปัจจุบันการดำเนินกิจการของโรงเรียน จัดการเรียนการสอนเป็น 4 ระดับ คือ ระดับบริบาล ระดับปฐมวัย ระดับประถมศึกษา และระดับมัธยมศึกษา ตามหลักสูตรของกระทรวงศึกษาธิการ โรงเรียนมุ่งอบรมสั่งสอนนักเรียนเพื่อให้บรรลุตามปรัชญาของโรงเรียนที่ว่า "ความยำเกรงพระเจ้า เป็นบ่อเกิดของความรู้" พระธรรมสุภาษิต 1:7 ได้ดำเนินการพัฒนางานด้านต่างๆ ให้เหมาะสม สอดคล้องกับ พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2545 และ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2553 และหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 และหลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนศรีธรรมราชศึกษาระดับขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2560 และหลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนศรีธรรมราชศึกษา ระดับก่อนประถมศึกษา พ.ศ. 2560 รวมทั้งส่งเสริมให้นักเรียนได้รับการฝึกทักษะ กระบวนการคิด การจัดการ การเผชิญสถานการณ์และการประยุกต์ความรู้มาใช้เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหา ได้เรียนรู้จากประสบการณ์จริง ฝึกการปฏิบัติให้คิดเป็นทำเป็น เกิดการใฝ่รู้อย่างต่อเนื่อง เป็นคนเก่ง คนดี และมีความสุข เป็นพลเมืองไทย พลเมืองอาเซียน และพลโลก